2.1 กำหนดให้กฎกระทรวงฉบับนี้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นเก้าสิบวันนับถัดจากวันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษา (ข้อ 1)
2.2 การยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการจดทะเบียนและกำหนดคุณสมบัติผู้ทำแผนและผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ พ.ศ. 2545 และกฎกระทรวงว่าด้วยการจดทะเบียนและกำหนดคุณสมบัติ
ผู้ทำแผนและผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 (ข้อ 2)
2.3 การกำหนดบทนิยาม เช่น “นายทะเบียน” หมายถึง อธิบดีกรมบังคับคดีหรือ
ผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายให้เป็นนายทะเบียน และ “กอง” หมายถึง กองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ (ข้อ 3)
2.4 การกำหนดให้บุคคลซึ่งประสงค์จะขอจดทะเบียนเป็นผู้ทำแผนหรือผู้บริหารแผน
ให้ดำเนินการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก ในระหว่างที่ยังไม่สามารถดำเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ให้ยื่นคำขอต่อนายทะเบียนตามแบบที่นายทะเบียนกำหนดพร้อมแสดงหลักฐานรับรองในด้านคุณสมบัติและในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอส่งเอกสารไม่ครบถ้วนหรือนายทะเบียนมีเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอ นายทะเบียนอาจแจ้งให้ผู้ยื่นคำขอส่งเอกสารเพิ่มเติมได้ (ข้อ 6)
2.5 การกำหนดคุณสมบัติของบุคคลธรรมดาซึ่งจะเป็นผู้ทำแผน (ข้อ 7)
2.6 การกำหนดคุณสมบัติของนิติบุคคลซึ่งจะเป็นผู้ทำแผน (ข้อ 8)
2.7 การกำหนดคุณสมบัติของบุคคลธรรมดาซึ่งจะเป็นผู้บริหารแผน (ข้อ 9)
2.8 การกำหนดคุณสมบัติของนิติบุคคลซึ่งจะเป็นผู้บริหารแผน (ข้อ 10)
2.9 การกำหนดหลักประกันที่ผู้ทำแผนหรือผู้บริหารแผนต้องวางไว้เพื่อชดเชย
ความเสียหายอันอาจเกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ (ข้อ 11 และข้อ 12)
2.10 การกำหนดให้ผู้ทำแผนหรือผู้บริหารแผนต้องวางหลักประกันในแต่ละคดี (ข้อ 13)
2.11 การพิจารณาและมีคำสั่งรวมทั้งระยะเวลาในการพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียน
ของนายทะเบียน (ข้อ 14)
2.12 การกำหนดให้กองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ทำหน้าที่เป็นผู้รวบรวมรายชื่อผู้ทำแผนหรือผู้บริหารแผนไว้เป็นหลักฐาน และการกำหนดวิธีการประกาศรายชื่อดังกล่าวของนายทะเบียน (ข้อ 15)
2.13 การถอดชื่อผู้ทำแผนหรือผู้บริหารแผนออกจากทะเบียน (ข้อ 16)
2.14 การคืนหลักประกันแก่ผู้ทำแผนหรือผู้บริหารแผน (ข้อ 17 ข้อ 18 และข้อ 19)
2.15 การกำหนดให้ผู้ทำแผนหรือผู้บริหารแผนที่ได้รับอนุญาตก่อนกฎกระทรวงฯ
นี้ใช้บังคับ ให้ใบอนุญาตมีผลใช้บังคับจนกว่าจะครบระยะเวลานั้น และเมื่อครบระยะเวลา หากประสงค์
จะเป็นผู้ทำแผนหรือผู้บริหารแผนต่อไป ให้ดำเนินการยื่นคำขอต่อนายทะเบียนตามที่กฎกระทรวงนี้กำหนดไว้ (ข้อ 21)