ใบสมัครเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ด้านการท่องเที่ยวและไมซ์
งานประชุมสัมมนานานาชาติ ด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว บนระเบียงเศรษฐกิจชายฝั่งตอนใต้ ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม (CVTEC)
ในวันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2564 เวลา 13.30-16.30 น. ณ โรงแรม Swissôtel Bangkok Ratchada และผ่านระบบออนไลน์ (ZOOM)

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
โทร. 081-989-5644
Sign in to Google to save your progress. Learn more
ประกาศหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เรื่อง นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
เพื่อให้การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับมาตรา4และมาตรา32แห่ง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หอการค้า ไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจึงประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอันมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
1. วัตถุประสงค์ของนโยบาย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้นสำหรับ ใช้บริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของ กรรมการ สมาชิก ผู้ใช้บริการ ลูกจ้าง ผู้แทนหอการค้าจังหวัดผู้แทนหอการค้า ต่างประเทศ ผู้แทนสมาคมการค้า รวมถึง บุคคลอื่นๆนอกจากที่กล่าวมานี้ ซึ่งได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้แก่หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ การเก็บรวบรวม การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จะ ดำเนินการสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บัญญัติไว้อันมีเจตนารมย์ คุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปลี่ยนแปลง วัตถุประสงค์ของการดำเนินการใดๆเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจะแจ้งให้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้ผ่านการอนุมัติและผลักดันโดยผู้บริหารระดับสูงและมีการประกาศ นโยบายดังกล่าวให้แก่พนักงานและบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องรับทราบโดยทั่วกัน
2. ขอบเขตการบังคับใช้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคล อันเป็นข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ของ กรรมการ สมาชิก ผู้ใช้บริการ ลูกจ้าง ผู้แทนหอการค้าจังหวัด ผู้แทนหอการค้าต่างประเทศ ผู้แทนสมาคมการค้า รวมถึง บุคคลอื่นใดนอกจากที่กล่าวมานี้ซึ่งได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้แก่หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จะได้รับ การคุ้มครอง โดย การเก็บ การรวบรวม การใช้ การเปิดเผย การแก้ไข จะได้รับความยินยอมจากผู้เป็นเจ้าของข้อมูล และ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้กําหนดให้มี เจ้าหน้าที่รับผิดชอบให้เป็นไปตามนโยบายคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
3. วิธีการในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
3.1 การเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจะดำเนินการเพียงเท่าที่จําเป็นต่อวัตถุที่ประสงค์และสิ่งที่มุ่งหมายเอาไว้
3.2 การเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลจะดำเนินการภายใต้กรอบความยินยอมของผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมาย และสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความเชื่อในลัทธิศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ หากจำเป็นต้องจัดเก็บ ใช้ หรือ เปิดเผย จะต้องขอความยินยอมจากผู้เป็นเจ้าของข้อมูลอย่างเคร่งครัดก่อน
3.3 การเก็บรวบรวมข้อมูลจะดำเนินการเก็บจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงเท่านั้นไม่ดำเนินการจัดเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น
3.4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บจะต้องมีวิธีการบริหารการจัดเก็บเพื่อให้เกิดความปลอดภัยจากบุคคลภายนอกในการเข้าถึงข้อมูล
4. ข้อจํากัดในการนําข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้
4.1 หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือแสดงข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ สมาชิก ผู้ใช้บริการ ลูกจ้าง ผู้แทนหอการค้าจังหวัด ผู้แทนหอการค้าต่างประเทศ ผู้แทนสมาคมการค้า รวมถึงบุคคลอื่นใดนอกจากที่กล่าวมานี้ซึ่งได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้แก่หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเท่าที่จําเป็น และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล
4.2 หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยขอรับรองว่าจะไม่นําข้อมูลส่วนบุคคลของ กรรมการ สมาชิก ผู้ใช้บริการ ลูกจ้าง ผู้แทนหอการค้าจังหวัด ผู้แทนหอการค้าต่างประเทศ ผู้แทนสมาคมการค้ารวมถึงบุคคลอื่นใดนอกจากที่กล่าวมานี้ซึ่งได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้แก่หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ไปจําหน่าย โอน หรือเผยแพร่ให้บุคคลภายนอกได้รับทราบโดยปราศจากความยินยอมจากผู้เป็นเจ้าของข้อมูล
       4.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดเก็บจะถูกนําไปใช้ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายและเพื่อการดำเนินการในกรณีต่างๆ เพื่อประโยชน์ต่อการประสานงานในกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับคณะกรรมการ หรือการดำเนินกิจกรรมเพื่อประโยชน์แก่สมาชิก อาทิเช่น การจัดเก็บค่าบํารุงสมาชิก การต่ออายุความเป็นสมาชิก การประชุมสมาชิก การจัดเก็บค่าบริการ การปฏิบัติตามเงื่อนไขเพื่อดำเนินการออกหนังสือรับรองต่างๆ ที่ใช้ประกอบกิจกรรมทางการค้าระหว่างประเทศ การประสานงานระหว่างคณะกรรมการหอการค้าจังหวัด หอการค้าต่างประเทศ และสมาคมการค้า
5.) การรักษาความปลอดภัย เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลจึงกำหนดแนวทางดำเนินการ ดังนี้
5.1 ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คําเนินการจัดเก็บตามกรอบเวลาในการดำรงสถานะในการเป็นกรรมการ สมาชิก ผู้ใช้บริการ ผู้แทนหอการค้าจังหวัด ผู้แทนหอการค้า ต่างประเทศ ผู้แทนสมาคมการค้า และลูกจ้าง เท่านั้น
5.2 ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นความลับ การเปิดเผยข้อมูลจะกระทำเพื่อเฉพาะตามวัตถุประสงค์ตาม 4. ข้างต้น หรือตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ อาทิเช่น ตามคำสั่งศาล หรือตามคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติ และให้อำนาจไว้
5.3 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดังต่อไปนี้
             • ขอเข้าถึงข้อมูลและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้
             • ขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอมได้
             • แจ้งให้ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
             • คัดค้านการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนที่กฎหมายอนุญาตให้เก็บได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้
             • ขอให้ทำลายหรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้
             • เพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของตนได้
5.4 มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการข้อมูล วางระบบในการจัดเก็บข้อมูล และกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูล
6. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูล หากผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์จะทราบข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อตรวจสอบข้อมูล สามารถร้องขอโดยระบุตัวตนที่แท้จริงของผู้เป็นเจ้าของข้อมูลได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกำหนด ทั้งนี้เมื่อได้รับคําร้องขอดังกล่าวแล้วจะรีบดำเนินการแจ้งถึงความมีอยู่หรือรายละเอียด ของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้กับผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายในกำหนดระยะเวลาอันสมควรแต่ไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่ร้องขอ และหากผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพบว่า ข้อมูลนั้นไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงสามารถแจ้งให้หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบหรือทำลายข้อมูลนั้นได้
นโยบายฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป

ผู้สมัครมีความยินยอมที่จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เพื่อให้ ฝ่าย หรือ สํานักงาน หรือ หน่วยงานต่างๆ ในสังกัดของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่มีกิจกรรมจัดเก็บข้อมูลบุคคลอันมีลักษณะทําให้สามารถระบุตัวบุคคลธรรมดาที่ถูกจัดเก็บนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม *
Next
Clear form
Never submit passwords through Google Forms.
This content is neither created nor endorsed by Google. Report Abuse - Terms of Service - Privacy Policy