พระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. 2547 ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2547 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 121 ตอนพิเศษ 81 ก หน้า 1 เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 2547 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประกอบด้วย 8 หมวด 1 บทเฉพาะกาล 89 มาตรา
หมวด 8 บทกำหนดโทษ
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. 2547 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐในการจัดรูปที่ดิน เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาสภาพที่อยู่อาศัย แหล่งธุรกิจ อุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ปรับปรุงหรือจัดสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของเมืองและชนบทที่เสื่อมโทรมเพื่อเป็นการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของชุมชนเมืองและชนบท
พระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. ๒๕๔๗ ตามมาตรา 3 “การจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่” หมายความว่า การดำเนินการพัฒนาที่ดินหลายแปลงโดยการวางผังจัดรูปแปลงที่ดินใหม่ ปรับปรุงหรือจัดสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และการร่วมรับภาระและกระจายผลตอบแทนอย่างเป็นธรรม ทั้งนี้ โดยความร่วมมือระหว่างเอกชนกับเอกชนหรือเอกชนกับรัฐ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดินที่เหมาะสมยิ่งขึ้นในด้านการคมนาคม การขนส่ง สาธารณูปโภค สาธารณูปการ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และชุมชน และเป็นการสอดคล้องกับการผังเมือง
ผู้ที่เกี่ยวข้อง
1. ผู้บังคับใช้กฎหมาย
- กรมโยธาธิการและผังเมือง
- สมาคมจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่
- องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- การเคหะแห่งชาติ
2. ประชาชนทั่วไป
- เจ้าของที่ดินที่เข้าร่วมโครงการ
- ประชาชนทั่วไป
3. ผู้กำกับติดตาม ตรวจสอบการดำเนินงานโครงการ
- คณะกรรมการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่
- คณะกรรมการบริหารกองทุนจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่
- คณะกรรมการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ส่วนจังหวัด
- คณะที่ปรึกษาโครงการ
4. องค์กรผู้ให้การสนับสนุนโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่
- กองทุนจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่
- สำนักงบประมาณ
- คณะรัฐมนตรี
- สมาชิกวุฒิสภา
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
- องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- กรมทางหลวง
- กรมทางหลวงชนบท
- การไฟฟ้า/การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
- การประปา/การประปาส่วนภูมิภาค
ข้อมูลสถิติที่เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้
กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้นำพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. 2547 มาใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนผังเมืองสู่การปฏิบัติ โดยส่งเสริมประชาชนมีส่วนร่วมกับรัฐพัฒนาถนนตามผังเมืองให้ดำเนินโครงการในทุกจังหวัดเพื่อเตรียมพื้นที่ให้เหมาะกับการพัฒนา สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินในเมืองได้ตามที่ผังเมืองกำหนด โดยผลการพัฒนาเมืองด้วยวิธีการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ในประเทศไทยที่ผ่านมา จำนวน 68 โครงการ 54 จังหวัด ประกอบด้วย
1. โครงการฯ ที่สำเร็จและประกาศสิ้นสุดโครงการฯ ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จำนวน 17 โครงการ
2. โครงการฯ ที่มอบหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินแปลงใหม่แล้ว จำนวน 44 โครงการ
3. โครงการฯ ที่อยู่ระหว่างเจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดที่ดินแปลงใหม่ จำนวน 7 โครงการ
4. โครงการฯ ที่อยู่ระหว่างออกแบบผังที่ดินแปลงใหม่และก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 7 โครงการ
5. โครงการฯ ที่อยู่ระหว่างเตรียมโครงการ จำนวน 70 โครงการ
โดยที่สำนักจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ กรมโยธาธิการและผังเมือง ในฐานะเป็นองค์กรที่มีหน้าที่ และความรับผิดชอบในการกำกับดูแลการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ให้กับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการ ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. 2547 จึงต้องเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. 2547 เห็นสมควรดำเนินการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติดังกล่าว เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายบรรลุเป้าหมายในการมีกฎหมายเพียงเท่าที่จำเป็น การลดความซ้ำซ้อนและขัดแย้งของกฎหมาย การลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ซึ่งในการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติดังกล่าว สำนักจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ กรมโยธาธิการและผังเมือง จะต้องดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง ตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 ตลอดจนต้องดำเนินการตามแนวทางการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายที่คณะกรรมการพัฒนากฎหมายโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีกำหนด ซึ่งจะต้องมีการประกาศการเปิดรับฟังความคิดเห็นและข้อมูลประกอบการรับฟังความคิดเห็น