ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ส่วนกิจการนิสิตขอความยินยอมจากท่านให้ส่วนกิจการนิสิตเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผลหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของนิสิต เพื่อดำเนินการจัดเก็บ
รวบรวมข้อมูล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่วนกิจการนิสิตเก็บรวบรวมโดยตรงจากนิสิต
มีดังนี้
1. ข้อมูลระบุตัวตน เช่น ชื่อ -
สกุล รหัสนิสิต คณะ/วิทยาลัย วันเดือนปีเกิด
2. ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น
หมายเลขโทรศัพท์
3. ข้อมูลด้านสุขภาพ เช่น
การรับการรักษาด้านสุขภาพจิต และสุขภาพกาย การดูแลสุขภาพจิต
ผลการทำแบบประเมินด้านสุขภาพจิต การวินิจฉัยโรคจากแพทย์ เป็นต้น
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
1. เพื่อให้การปรึกษาทางด้านสุขภาพจิต
และเพื่อประโยชน์ต่อนิสิต
ทำให้การรับบริการการปรึกษาสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ของการเข้ารับบริการ
1.1
การดำเนินการให้การปรึกษา โดยผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง (นักจิตวิทยา)
1.2 การทำนัดหมาย
1.3
การส่งต่อข้อมูลให้แก่ผู้ที่ต้องช่วยเหลือต่อไป
โดยส่วนกิจการนิสิตจะขอรับความยินยอมจากนิสิตก่อนจะนำข้อมูลการรับบริการและข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อส่งต่อ
เว้นแต่กรณีที่นิสิตมีความเสี่ยงทางด้านจิตใจจนเป็นอันตรายต่อชีวิตและผู้อื่น
ส่วนกิจการนิสิตจะส่งต่อนิสิตให้กับจิตแพทย์ และ/หรือผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ส่วนกิจการนิสิตจะไม่เปิดเผย
ข้อมูลส่วนบุคคลของนิสิต ให้แก่บุคคลใดๆ เว้นแต่นิสิตได้ร้องขอและยินยอมให้ส่วนกิจการนิสิตเปิดเผยแก่บุคคลอื่น
เพื่อประโยชน์ของนิสิต
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัย
ส่วนกิจการนิสิตตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
ส่วนกิจการนิสิตจะรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลของท่านโดยมิชอบ อย่างเหมาะสม
สิทธิของนิสิตในฐานะผู้รับบริการการปรึกษา
1. นิสิตมีสิทธิ์ที่จะได้รับข้อมูลจากนักจิตวิทยาการปรึกษาของท่านเกี่ยวกับระเบียบวิธีและเทคนิคที่ใช้ในการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
รวมถึงระยะเวลาที่ใช้ (หากสามารถประมาณการณ์ได้)
นักจิตวิทยาการปรึกษาของท่านอาจมีการปรึกษากับเพื่อนร่วมงานในประเด็นต่างๆ
ที่เกี่ยวกับกระบวนการปรึกษา (ถ้าจำเป็น)
ซึ่งท่านสามารถสอบถามและอภิปรายเกี่ยวกับความก้าวหน้าในกระบวนการปรึกษาได้ทุกเมื่อ
อีกทั้งท่านสามารถยกเลิกการเข้ารับบริการการปรึกษาได้ตลอดเวลาโดยแจ้งให้นักจิตวิทยาการปรึกษาของท่านทราบล่วงหน้า
2. ข้อมูลส่วนตัวและเรื่องราวของนิสิตที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการปรึกษาเชิงจิตวิทยาจะถูกเก็บเป็นความลับภายใต้หลักจรรยาบรรณของนักจิตวิทยา
การเปิดเผยข้อมูลจะทำได้ก็ต่อเมื่อมีคำสั่งศาลหรือข้อบังคับทางกฎหมาย
แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีกรณีอื่นที่นักจิตวิทยาจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูล ซึ่งนิสิตและนักจิตวิทยาสามารถอภิปรายและระบุถึงรายละเอียดข้อมูลเหล่านั้นร่วมกันได้ในระหว่างกระบวนการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
กรณีดังกล่าว เช่น พบว่านิสิตมีพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวท่านเองหรือผู้อื่น
พบพฤติกรรมการล่วงละเมิดทางเพศ มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายในระดับสูง หรือว่านิสิตกำลังตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อตัวเอง
เป็นต้น
เพื่อนักจิตวิทยาการปรึกษาจะได้ดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
3.
ในระหว่างกระบวนการปรึกษา บันทึกข้อมูลของนิสิตจะได้รับการจัดเก็บไว้ในที่จัดเก็บเฉพาะ
ซึ่งมีเพียงผู้ที่มีอำนาจตามหน้าที่ (นักจิตวิทยาการปรึกษาของท่านหรือผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ)
เท่านั้น ที่สามารถเข้าถึงบันทึกข้อมูลดังกล่าวได้
โดยเมื่อกระบวนการปรึกษาเชิงจิตวิทยาเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว
บันทึกข้อมูลเหล่านี้จะได้รับการประมวลผลและจัดเก็บไว้เป็นระยะเวลาหนึ่ง
ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการทำลายบันทึกข้อมูลเหล่านั้นต่อไป
การส่งต่อสำเนาบันทึกข้อมูลของท่านไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น
จำเป็นต้องได้รับการยินยอมจากนิสิตเท่านั้น
ข้าพเจ้าได้อ่านข้อความข้างต้นแล้ว
และมีเข้าใจดีทุกประการ จึงลงลายมือชื่อนี้ไว้เป็นหลักฐาน