JavaScript isn't enabled in your browser, so this file can't be opened. Enable and reload.
สำนักงานทางชีวิต
ตู้ ป.ณ.6 ปณฝ.อุดมสุข กรุงเทพฯ 10261
โทร. 0-2361-1182,0-2398-8331 แฟกซ์ 0-2398-8327
http://thangchiwit.org/
"ทางชีวิต" ยินดีอย่างยิ่งที่ท่านได้สนใจเรียนบทเรียนทางออนไลน์กับเราซึ่ง
ไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียนใดๆ บทเรียนชุดนี้มีทั้งหมด 8 บท
Sign in to Google
to save your progress.
Learn more
* Indicates required question
Email
*
Your email
วิธีเรียน
1.อ่านบทเรียนจนจบตลอดบท 1-2 รอบ บทเรียนเกือบทั้งหมดเป็นข้อความที่คัดมาจากพระคัมภีร์ ซึ่งเป็นพระวจนะของพระเจ้า โดยตรง ขอให้ท่านทวนข้อควาวมเหล่านี้หลายๆครั้ง พระคัมภีร์ประกอยด้วย 66 เล่ม บทเรียนเหล่านี้มาจากหนังสือต่างๆของพระคัมภีร์ดังมีชื่อกำกับไว้ในตอนท้ายทุกครั้ง ตัวอย่าง เช่น ยอห์น 1:3 อ่านว่า ยอห์นบทที่ 1 ข้อ 3
2.เมื่อท่านอ่านบทเรียนอย่างระมัดระวัง และท่านมีความความเข้าใจดีแล้ว ก็เริ่มต้นตอบคำถามที่เราได้ถามในบทเรียน
3.เมื่อตอบเสร็จแล้วก็กดคำว่าส่งคำตอบเพียงครั้งเดียว ไม่ต้องส่งหลายครั้งเดียวชื่อซ้ำกัน
(ข้อควรระวัง! ก่อนส่งบทเรียนไปให้เราตรวจ ท่านต้องเขียนชื่อที่อยู่ลงไปในบทเรียนของท่านทุกครั้งเพื่อสะดวกในการจัดส่งบทเรียน) เมื่อท่านศึกษาบทเรียนทางออนไลน์จนจบ 8 บท ท่านจะพบความจริงว่า มีพระเจ้าองค์เที่ยงแท้แต่เพียงองค์เดียวผู้ยังทรงพระชนม์อยู่ และท่านจะได้พบหนทางการรอดพ้นบาป ซึ่งจะนำท่านไปสู่ชีวิตนิรันดร์ ในบทเรียนบทแรกเราจะเริ่มเรียนรู้ว่าพระเจ้าได้ทรงสร้างสิ่งสารพัดทุดสิ่งขึ้น และเราจะคัดถ้อยคำต่างๆ ออกมาจากหนังสือพระคัมภีร์ ซึ่งเป็นพระคำของพระเจ้า ขอให้ท่านได้กรุณาอ่านทบทวนข้อความเหล่านี้หลายๆครั้ง จนกว่าจะเข้าใจ
บทที่ 1
เรื่อง พระเจ้าเป็นองค์พระผู้สร้าง
ในปฐมกาล พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดิน(ปฐมกาล1:1) พระองค์ได้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งปวง และสิ่งทั้งปวงที่เป็นขึ้นแล้วนั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่เป็นขึ้นนอกเหนือพระองค์ (ยอห์น 1:3) พระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ตามพระฉายาของพระเจ้านั้นพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นและได้ทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง พระเจ้าทรงอวยพรแก่มนุษย์ (ปฐมกาล 1 : 27-28) พระเจ้าทรงเป็นบุคคลผู้ไม่มีสถานะ ทรงเป็นพระวิญญาณ และสถิตอยู่ได้ทุกหนทุกแห่ง
พระเจ้าทรงสร้างโลกกับสิ่งทั้งปวงที่อยู่ในนั้น พระองค์ทรงเป็นเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก มิได้ทรงสถิตในปูชนียสถาน ซึ่งมือมนุษย์ได้กระทำไว้ พระองค์มิจำต้องให้มือมนุษย์มาปรนนิบัติ ดังว่ามีความต้องการสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานชีวิตและลมหายใจ และสิ่งสารพัดแก่คนทั้งปวงต่างหาก พระองค์ได้ทรงสร้างมนุษย์ทุกชาติ สืบสายโลหิตอันเดียวกันให้อยู่ทั่วพิภพโลก และได้ทรงกำหนดเวลาและเขตแดนให้เขาอยู่เพื่อเขาจะได้แสวงหาพระเจ้าและมุ่งหวังจะคลำหาได้พบพระองค์ ที่จริงพระองค์มิทรงอยู่ห่างไกลจากเราทุกคนเลย ด้วยว่า เรามีชีวิตและไหวตัวและเป็นอยู่ในพระองค์ (กิจการ 17 : 24-28)
พระเจ้าทรงสภาพที่ไม่ปรากฎ ทรงอยู่ถาวรเป็นนิจ เราจึงไม่อาจมองเห็น พระองค์ได้ด้วยตาของเรา แต่พระราชกิจของพระองค์ก็สำแดงอยู่แล้วว่า พระองค์เป็นพระเจ้า ทรงเกลียดความบาป พระเทียมเท็จ และการบูชารูปเคารพ เมื่อมนุษย์ขาดความเข้าใจและขาดการติดต่อกับพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ เขาก็เริ่มหันไปกราบไหว้บูชารูปเคารพที่ปั้นขึ้นเป็นรูปคน สัตว์และนกชนิดต่างๆ
เพราะว่าพระเจ้าทรงสำแดงพระพิโรธของพระองค์จากสวรรค์ ต่อความหมิ่นประมาทพระองค์ และความชั่วร้ายทั้งมวลของมนุษย์ที่เอาความชั่วร้ายนั้นบีบคั้นความจริง เหตุว่าเท่าที่จะรู้จักพระเจ้าได้ก็แจ้งอยู่กับใจเขาทั้งหลาย เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงโปรดสำแดงแก่เขาแล้ว ตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมาแล้ว สภาพที่ไม่ปรากฏของพระเจ้านั้น คือฤทธานุภาพอันถาวรและเทวสภาพของพระองค์ก็ได้ปรากฏชัดในสรรพสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้าง ฉะนั้น เขาทั้งหลายจึงไม่มีข้อแก้ตัวเลย เพราะถึงแม้เขาทั้งหลายได้รู้จักพระเจ้าแล้ว เขาก็มิได้ถวายพระเกียรติแด่พระองค์ให้สมกับที่ทรงเป็นพระเจ้า หรือหาได้ขอบพระคุณไม่ แต่เขากลับคิดในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ และจิตใจโง่เขลาของเขาก็มืดมัวไป เขาอ้างตัวว่าเป็นคนมีปัญญา เขาจึงกลายเป็นคนโง่เขลาไปและเขาได้เอาพระสิริของพระเจ้าผู้เป็นอมตะมาแลกกับรูปมนุษย์ที่ต้องตายหรือรูปนก รูปสัตว์จตุบาท และรูปสัตว์เลื้อยคลาน(โรม1:18-23)
พระเจ้าไม่ได้เป็นรูปปั้นหรือรูปภาพ แต่พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ทรงสภาพไม่ปรากฏและเป็นองค์พระผู้สร้างผู้มีฤทธิ์อำนาจ เราจึงไม่สามารถจิตนาการรูปร่างของพระเจ้าออกมาได้
ท่านจะเปรียบพระเจ้าเหมือนผู้ใด หรือเปรียบพระองค์คล้ายกับอะไร คือพระองค์ผู้ประทับเหนือปริมณฑลของแผ่นดินโลก และชาวแผ่นดินโลกก็เหมือนอย่างตั๊กแตนโม ผู้ทรงขึงฟ้าสวรรค์เหมือนขึงม่าน และกางออกเหมือนเต็มที่อาศัยผู้ทรงกระทำนายให้เหมือนเปล่า และทรงกระทำให้ผู้ครอบครองแผ่นดินโลกเป็นเหมือนศูนยภาพ พอปลูกเขาเหล่านั้นเสร็จ พอหว่านเสร็จพอที่รากหยั่งลงพระองค์ก็เป่ามาบนเขา เขาก็เหี่ยวแห้งไปและพายุก็พัดพาเขาไปเหมือนตอข้าว องค์บริสุทธิ์ตรัสว่า เจ้าจะเปรียบเรากับผู้ใดเล่า ซึ่งเราจะเหมือนเขา (อิสยาห์ 40:18,22-25)
เขาทุกคนต้องอับอายและขายหน้า ผู้สร้างรูปเคารพก็อดสูไปด้วยกัน..เขาทั้งหลายไม่มีความรู้คือผู้ที่ยกรูปเคารพไม้ของเขาไปและอธิษฐานขออยู่เสมอต่อพระ ซึ่งช่วยเขารอดไม่ได้...นอกจากเราไม่มีพระเจ้าอื่นเลย พระเจ้าผู้ชอบธรรมและพระผู้ช่วยให้รอดไม่มีอื่นใดนอกเหนือเรา (อิิสยาห์ 45:16,20-21)
พระเจ้าทรงเป็นผู้ดีรอบคอบ พระองค์ทรงรักมนุษย์ทุกคน แต่พระองค์ทรงชิงชังความบาปและทางแห่งความชั่วของเรา ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก (1ยอห์น 4:8) พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงหวงแหนและทรงแก้แค้น พระเจ้าทรงแก้แค้นและมีพระพิโรธ พระเจ้าทรงแก้แค้นศัตรูของพระองค์และทรงเก็บความโกรธไว้ให้ปัจจามิตรของพระองค์ พระเจ้าทรงกริ้วช้า ทรงฤทธานุภาพใหญ่ยิ่ง พระเจ้าไม่งดโทษเลย พระเจ้าประเสริฐ ทรงเป็นที่กำบังเข้มแข็งในวันยากลำบาก มนุษย์ทุกคนในโลกนี้ทั้งหมด ได้ทำบาปเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าจิตใจของเราก็มืดมัวไปเพราะที่เราทำไปนั้น และเราขาดกาติดต่อกับพระเจ้าของเราโดยสิ้นเชิง เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า (โรม 3:23) แต่ว่าความบาปชั่วของเจ้าทั้งหมดได้กระทำให้เกิดการแตกแยกระหว่างเจ้ากับพระเจ้าของเจ้า และบาปของเจ้าทั้งหลายได้บังพระพักตร์ของพระองค์เสียจากเจ้า พระองค์จึงมิได้ยิน"(อิสยาห์ 59:2)
เมื่อพระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์หลงหายและจมลึกลงไปในความบาป พระองค์ทรงพยายามหามนุษย์สักคนหนึ่งที่สามารถให้อภัย และยกโทษบาปที่มีหัวใจเพื่อมนุษย์ทั้งหลายได้คนผู้นั้นต้องเป็นผู้เชื่อความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ให้กลับคืนดีกันได้
และเราก็แสวงหาสักคนหนึ่งในพวกเขา ซึ่งจะสร้างกำแพงและยืนอยู่ในช่องโหว่ต่อหน้าเราเพื่อแผ่นดินนั้น เพื่อเราจะมิได้ทำลายมันเสีย แต่ก็หาไม่ได้สักคนเดียว(เอเสเคียล 22:30)
พระเจ้ามิได้พบชายผู้มีลักษณะเช่นนั้นในท่านกลางมนุษย์ แต่พระองค์ทรงพบท่านผู้นั้นในสวรรค์ พระองค์ไม่เคยมีบาป และสามารถจะรับแบกบาปของมนุษย์โลกทั้งหมดไว้กับพระองค์ได้ และแล้วในวันหนึ่งพระองค์พระองค์ก็เสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ในโลก ศาสดาพยากรณ์ผู้ยิ่งใหญ่ คือ ยอห์น ผู้ให้รับบัพติสมา ได้ชี้และกล่าวถึงพระองค์ว่า "จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้าผู้ทรงรับความบาปผิดเสีย
(ยอห์น 1: 29 )
เราจะได้เรียนรู้เรื่องของพระองค์มากยิ่งขึ้นในบทที่ 2 โปรดตอบ คำถามข้ามข้างล่างนี้ก่อน ท่านจะพบคำตอบได้ไม่ยากนัก ถ้าท่านได้อ่านบทเรียนอย่างระมัดระวังจนตลอดบทแล้ว กรุณาเขียนชื่อและที่อยู่ของท่านและส่งไปยังเรา เราจะตรวจบทเรียนของท่านและวัดผลการเรียนเป็นลำดับขั้นโดยเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์
Next
Clear form
Never submit passwords through Google Forms.
This content is neither created nor endorsed by Google.
Report Abuse
-
Terms of Service
-
Privacy Policy
Forms