แบบทดสอบก่อนการอบรมหลักสูตรความปลอดภัยในการทำงานกับสารเคมี สำหรับนิสิตที่ทำวิจัยและนักวิจัย

JavaScript isn't enabled in your browser, so this file can't be opened. Enable and reload.

จัดโดย ศูนย์ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คำชี้แจง 1. ข้อสอบเป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 15 ข้อ
2. การทำข้อสอบ ไม่มีผลต่อการสอบผ่านหลักสูตรนี้แต่อย่างใด เป็นเพียงการประเมินความรู้ก่อนการอบรม
3. เลือกคำตอบเพียง 1 คำตอบจากตัวเลือกที่กำหนดให้ในแต่ละคำถาม
4. ทำข้อสอบให้ครบทุกข้อ
5. ผู้อบรมทุกคนต้องทำแบบทดสอบให้เสร็จก่อนวันที่เข้าอบรม

รายละเอียดผู้สอบ

1. คำนำหน้า *

นาย

นางสาว

นาง

2. ชื่อ-นามสกุล *

3. เลขประจำตัวนิสิต (ถ้ามี)

4. ภาควิชา / หลักสูตร

5. คณะ/ หน่วยงาน *

โปรดระบุ (อื่นๆ)

อาจารย์ที่ปรึกษา / หัวหน้างาน *

แบบทดสอบ

1. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่จัดเป็นนโยบายด้านความปลอดภัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย *

2 points

1) มีพันธกิจดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยสภาพแวดล้อมในการทำงานและคุณภาพสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องกับมาตรฐานและกฎหมาย

2) มีพันธกิจในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมในจุฬาฯให้สอดคล้องกับมาตรฐานในระดับประเทศและสากล

3) มีพันธกิจในการเสริมสร้างจิตสำนึก ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเรื่องความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม แก่ ผู้บริหาร คณาจารย์ บุคคลากร นิสิต และบุคคลภายนอกที่มาปฏิบัติงานภายในจุฬาฯ

4) มีพันธสัญญาในการจัดระบบและสร้างกระบวนการบริหารความปลอดภัยอาชีวนามัย สภาพแวดล้อมในการทำงาน และคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้มีการดำเนินการและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

2. ข้อใดต่อไปนี้ ถูกต้อง *

2 points

1) จุฬาฯ มีการจัดเก็บของเสียอันตรายในทุก ๆ เดือน นักวิจัยไม่ควรเก็บของเสียอันตรายค้างทิ้งไว้ในห้องปฏิบัติการเป็นระยะเวลานาน

2) การทำ ESPReL checklist ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในห้องปฏิบัติการทุกคน เช่น อาจารย์ หัวหน้าห้องปฏิบัติการ นักวิจัย นิสิตที่ทำงานวิจัย ควรร่วมมือและทำพร้อมกันอย่างน้อยเดือนละครั้ง

3) ในกรณีที่ต้องการขอแบ่งปันสารเคมี นักวิจัยในจุฬาฯ สามารถตรวจสอบสารเคมีผ่านระบบ WasteTrack ได้เอง จากนั้นทำการแจ้งบอกถึงเจ้าของสารเคมีผ่าน ผู้ดูแลระบบ WasteTrack เพื่อทำการประสานงานต่อไป

4) ถูกทุกข้อ

3. สายใจทำการวิเคราะห์หาองค์ประกอบของตัวอย่างโดยใช้เทคนิคแก๊สโครมาโทกราฟี ซึ่งมีการใช้งานแก๊สไนโตรเจนซึ่งเป็นแก๊สอัดร่วมด้วย ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ความเป็นอันตรายที่เกิดขึ้นเนื่องจากการใช้งานของแก๊สไนโตรเจน *

2 points

1) ความไวไฟ

2) การแทนที่อากาศได้

3) น้ำหนักของถังแก๊ส

4) ความดัน

4. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่จัดเป็นงานวิจัยที่มีความเสี่ยงสูง *

2 points

1) การทดลองแบบย่อส่วน (small scale experiment) โดยแยกน้ำด้วยไฟฟ้า(อิเล็กโทรลิซิส)

2) การกลั่นให้ diethyl ether ปราศจากน้ำโดยใช้ลวดโซเดียมและ benzophenone

3) การ reflux สารตัวอย่างโดยใช้ตัวทำละลายเอทานอล เป็นเวลา 24 ชั่วโมง

4) ถูกทุกข้อ

5. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ถูกต้องในการจัดการห้องปฏิบัติการให้มีสภาพเหมาะสม *

2 points

1) สามารถนำขวดสารเคมีไปวางชั่วคราวในตู้ดูดควันได้ เมื่อเสร็จสิ้นจากการทำงาน ให้นำขวดสารเคมีกลับไปวางในตู้จัดเก็บสารเคมี

2) การจัดระเบียบในห้องปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ สามารถช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในห้องปฏิบัติการ

3) นำสิ่งของหรือเครื่องมือ ที่มีขนาดใหญ่วางไว้บนชั้นที่มีระดับต่ำหรือบนทางเดินเท้าแทน

4) ทำความสะอาดพื้นที่ทํางานทุกครั้งเมื่อเสร็จภารกิจในแต่ละวัน

6. ข้อใดต่อไปนี้ เป็นการใช้งานตู้ดูดควันอย่าง ไม่ถูกวิธี *

2 points

1) สามารถใช้งานตู้ดูดควันในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับจุลชีพที่ก่อโรคได้

2) ไม่ทำงานด้วยความรวดเร็วหน้าตู้ดูดควัน

3) จัดตั้งอุปกรณ์และชุดการทดลองให้ลึกเข้าไปในตู้ดูดควัน เข้าไปจากด้านหน้าประมาณ 6 – 10 นิ้ว

4) ไม่ยื่นศีรษะเข้าไปในตู้ดูดควัน

7. ข้อใดต่อไปนี้ เป็นการทำงานตามข้อปฏิบัติทั่วไปในการใช้ห้องปฏิบัติการ *

2 points

1) ทศพลนำเพื่อนจากต่างคณะเข้ามาบริเวณห้องปฏิบัติการในช่วงเวลานอกทำการ

2) ลำเจียกสวมใส่แว่นสายตาแทนการใช้คอนแทคเลนส์เมื่อทำงานในห้องปฏิบัติการ

3) สุจิตราจะไม่ล็อคห้องปฏิบัติการทุกครั้งขณะปฏิบัติงาน

4) พิกุลไม่นำอาหารเข้ามาในห้องปฏิบัติการยกเว้นเครื่องดื่มเท่านั้น

8. ข้อใดต่อไปนี้ ถูกต้องเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล *

2 points

1) ถุงมือที่ทำด้วยใยหินเหมาะสมในการใช้งานกับความร้อนและความเย็น

2) การใช้งานหน้ากากป้องกันไอของสารเคมีชนิดมีตลับกรอง (respirator with cartridge) สามารถใช้งานในสภาาวะที่ขาดแก๊สออกซิเจนได้

3) ในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี การทำงานในตู้ดูดควันเป็นการปกป้องร่างกายจากสารเคมี ได้ดีมากกว่าการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล

4) แว่นตานิรภัยแบบครอบดวงตา สามารถปกป้องดวงตาได้ดีน้อยกว่าแว่นตานิรภัย เมื่อใช้งานสารเคมีเหลว

9. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ถูกต้อง *

2 points

1) ไฟที่เกิดจากการลุกไหม้ตัวทำละลายอินทรีย์ เช่น เอทานอล สามารถใช้ถังดับเพลิงแบบ CO2 ดับไฟได้

2) ทรายที่แห้งและสะอาด สามารถใช้กลบไฟชนิด D ได้

3) "ดึง กด ปลด ส่าย” เป็นลำดับขั้นตอนในการใช้งานถังดับเพลิงอย่างถูกวิธี

4) หลังการใช้งานถังดับเพลิงแบบผงเคมีแห้งและเมื่อไฟสงบ จะเกิดคราบสกปรกเนื่องจากการใช้งานสารเคมี

10. สารเคมีชนิดหนึ่ง มีสัญลักษณ์แสดงความเป็นอันตรายตามระบบ NFPA ดังภาพด้านล่าง ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับสารเคมีชนิดดังกล่าว *

2 points

1) เป็นสารไม่ติดไฟ แต่ช่วยให้ไฟลุกไหม้ได้รุนแรงเพิ่มมากขึ้น

2) ไม่สามารถจัดเก็บรวมกับสารไวไฟและสารติดไฟ

3) เป็นสารกัดกร่อนที่มีออกซิเจนเป็นองค์ประกอบ

4) เป็นสารที่ไม่ไวต่ออากาศ

11. ผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องทราบความเป็นอันตรายของสารเคมีในการใช้งาน เพื่อประเมินความเสี่ยงและหาแนวทางควบคุมความเป็นอันตรายของสารเคมีในการปฏิบัติงาน ข้อมูลจากเอกสารข้อมูลความปลอดภัยของสาร ในหัวข้อที่ 2: ข้อมูลระบุความเป็นอันตราย จะให้ข้อมูลด้านต่าง ๆ ที่สำคัญในเรื่องดังกล่าว ยกเว้น *

2 points

1) อันตรายอื่น ๆ ซึ่งมิได้เป็นผลลัพธ์ในการจำแนกประเภทตามระบบ GHS

2) การจำแนกประเภทความเป็นอันตรายของสารเดี่ยวหรือสารผสม

3) องค์ประกอบของฉลากรวมถึงข้อควรระวัง

4) ระดับความเป็นพิษของสารเคมีเชิงปริมาณ

12. ข้อใดต่อไปนี้ ถูกต้อง *

2 points

1) ควรจัดเก็บสารที่มีความเป็นพิษสูง ไว้ในพื้นที่ที่มีการควบคุมการเข้าถึงของผู้ใช้งาน

2) สารไวไฟ คือ สารที่มีจุดเดือดต่ำและมีความดันไอสูง

3) Sensitizer คือ สารระคายเคืองที่ไม่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

4) ถูกทุกข้อ

13. ข้อปฏิบัติในการเก็บรักษาสารเคมี ข้อใดต่อนี้ ถูกต้อง *

2 points

1) ควรแยกเก็บสารเป็น 6 ประเภท ตามคู่มือการเก็บรักษาสารเคมีและวัตถุอันตราย โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม

2) ในการจัดเก็บสารเคมี ให้จัดเก็บตามความเป็นอันตรายและลำดับตามตัวอักษรของสารเคมีตามลำดับ

3) ภาชนะบรรจุสารเคมีต้องติดฉลากให้ชัดเจน และเขียนระบุสูตรทางเคมีแทนการระบุชื่อของสารเคมี

4) ถูกทุกข้อ

14. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ถูกต้อง *

2 points

1) กรณีที่กรดหกลงบนพื้น สามารถใช้ โซเดียมไบคาร์บอเนต (NaHCO3) ในการทำให้เป็นกลาง

2) กรณีที่เบสหกลงบนโต๊ะปฏิบัติการ สามารถใช้กรดไนตริกแบบเจือจางในการทำให้เป็นกลาง

3) กรณีตัวทำละลายอินทรีย์หกลงบนพื้นหรือโต๊ะปฏิบัติการ สามารถใช้ทรายกลบเพื่อดูดซับ

4) กรณีปรอทหกลงบนพื้นให้ใช้ผงกำมะถันโรยบริเวณที่มีปรอทปนเปื้อน

15. สมคิดเป็นนักศึกษาและเรียนวิชาปฏิบัติการเคมีซึ่งมีการเรียนการสอนในอาคารสูง สมคิดสังเกตว่า หน้าประตูทางหนีไฟซึ่งอยู่ใกล้กับห้องปฏิบัติการ มีเครื่องมือขนาดใหญ่วางกีดขวางอยู่ รวมทั้งประตูทางหนีไฟถูกล็อคไม่สามารถใช้งานได้จริง จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ข้อใดกล่าวถูกต้อง *

2 points

1) จัดเป็นเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ (near-miss) สมคิดควรรีบแจ้งบอกอาจารย์เกี่ยวข้องให้รายงานผ่านระบบรายงานของมหาวิทยาลัย

2) จัดเป็นสภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัย (unsafe condition) สมคิดสามารถรายงานได้ด้วยตัวเอง ผ่านระบบรายงานของมหาวิทยาลัย

3) จัดเป็นอุบัติเหตุ (accident) สมคิดควรรีบแจ้งบอกอาจารย์เกี่ยวข้องให้รายงานผ่านระบบรายงานของมหาวิทยาลัย

4) จัดเป็นอุบัติเหตุ (accident) สมคิดสามารถรายงานได้ด้วยตัวเอง ผ่านระบบรายงานของมหาวิทยาลัย

Submit

Clear form

Never submit passwords through Google Forms.

This form was created inside of Chulalongkorn University. Report Abuse

Forms